Don’t miss out
Shirt
Finisher Shirt
Fee and Privilege
Sport Type
Rules
กติกาการเข้าร่วมกิจกรรมและการแข่งขัน CMU Chiang Mai Marathon 2024 ประเภท Virtual Run (VR)
1. คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะได้มอบหมายคณะอนุกรรมการฝ่ายเทคนิคเป็นผู้ธำรงไว้ซึ่งกติกาการแข่งขันนี้
2. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องลงทะเบียน และชำระเงินใน “เว็บ” ของการแข่งขัน https://www.cmu-marathon.com/ ตามเวลาที่กำหนดโดยระบุข้อมูลระยะที่เข้าร่วมคือ มินิมาราธอน หรือ ฮาล์ฟมาราธอน หรือ ฟูลมาราธอน หรือ ไอออนฮาร์ทมาราธอน และให้ข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน
3. ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในระยะมินิมาราธอน ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 13 ปี และต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี เพื่อร่วมกิจกรรมในระยะฮาล์ฟมาราธอน ฟูลมาราธอน และระยะไอออนฮาร์ทมาราธอน และหากผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีอายุไม่ถึง 18 ปี ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมแล้ว
4. ผู้เข้าร่วมการกิจกรรมในระยะมินิมาราธอน หรือ ฮาล์ฟมาราธอน หรือ ฟูลมาราธอน หรือไอออนอาร์ทมาราธอนจะต้องทำการวิ่งหรือเดินจริง หรือวิ่งหรือเดินจริงบนสายพาน หรือใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ดังต่อไปนี้
4.1. เครื่องวิ่งสายพาน ด้วยระยะ 1.15 กิโลเมตร เทียบเท่ากับการวิ่งจริงด้วยระยะ 1 กิโลเมตร
4.2. เครื่องวิ่งสายพาน ร่วมกับ App Zwift Run ด้วยระยะ 1.1 กิโลเมตร เทียบเท่ากับการวิ่งจริงด้วยระยะ 1 กิโลเมตร
4.3. ว่ายน้ำ ด้วยระยะ 300 เมตร เทียบเท่ากับการวิ่งจริงด้วยระยะ 1 กิโลเมตร
4.4. ปั่นจักรยาน (Outdoor) ด้วยระยะ 3 กิโลเมตร เทียบเท่ากับการวิ่งจริงด้วยระยะ 1 กิโลเมตร
4.5. ปั่นจักรยานไฟฟ้า ด้วยระยะ 3.25 กิโลเมตร เทียบเท่ากับการวิ่งจริงด้วยระยะ 1 กิโลเมตร
4.6. ปั่นสปินไบค์ ด้วยระยะ 3.25 กิโลเมตร เทียบเท่ากับการวิ่งจริงด้วยระยะ 1 กิโลเมตร
4.7. ปั่น In door Cycling Trainer ด้วยระยะ 3.25 กิโลเมตร เทียบเท่ากับการวิ่งจริงด้วยระยะ 1 กิโลเมตร
4.8. ปั่น Zwift Ride ด้วยระยะ 3.1 กิโลเมตร เทียบเท่ากับการวิ่งจริงด้วยระยะ 1 กิโลเมตร
โดยมีระยะทางอย่างน้อยตามที่กำหนดไว้ในระยะที่ตนได้สมัครไว้ นั้น ๆ กล่าวคือ 10.5 กิโลเมตร และ 21.1 กิโลเมตร และ 42.195 กิโลเมตร และ 123 กิโลเมตร สำหรับกิจกรรมในระยะมินิมาราธอน และ ฮาล์ฟมาราธอน และ ฟูลมาราธอน และไอออนฮาร์ทตามลำดับ
โดยต้องส่งผลการวิ่งในแอปพลิเคชัน Run-Hub NextVR ที่กำหนด โดยมีรูปแบบข้อมูลเป็นไปตามกติกาการส่งข้อมูลที่กำหนดไว้ในข้อที่ 5 ผู้เข้าร่วมต้องวางแผนการวิ่งให้ดี สามารถวิ่งต่อเนื่องจนครบระยะ แล้วส่งผลครั้งเดียว หรือวิ่งเป็นช่วงโดยส่งผลวิ่งหลายครั้งเพื่อรวมระยะวิ่ง แต่ต้องส่งข้อมูลในช่วงเวลาที่กำหนด โดยส่งข้อมูลได้ไม่จำกัดครั้ง นักวิ่งต้องรับผิดชอบส่งผลที่รวมระยะให้ได้ตามที่กำหนดเอง และต้องรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยระหว่างวิ่งของตน ผู้จัดการแข่งขันจะไม่มีส่วนรับผิดชอบในความปลอดภัยดังกล่าว
ทั้งนี้คณะกรรมการฝ่ายเทคนิคจะได้จัดประมวลผลเรียงอันดับเวลาการเข้าร่วมกิจกรรมให้ท่านได้ทราบภายหลังเมื่อการประมวลผลเสร็จสิ้น
5. แอปพลิเคชัน Run-Hub NextVR จะเปิดให้ทดสอบการส่งข้อมูลการวิ่งในระบบตามกำหนดการที่จะประกาศให้ทราบต่อไป ขอเชิญผู้เข้าร่วมแข่งขันเข้าร่วมการทดสอบการส่งข้อมูลดังกล่าว
6. ให้ส่งผลบนแอปพลิเคชัน Run-Hub NextVR ที่ประกาศไว้ โดย
6.1. ในกิจกรรมมินิ ฮาล์ฟ และฟูลมาราธอน สามารถส่งผลด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งในสามวิธีนี้ได้แก่ submit sync, submit plus, และ manual input. โดยต้องเลือกวิธีการส่งข้อมูลวิธีใดวิธีหนึ่งในแต่ละครั้ง และต้องตรวจสอบข้อมูล, ประเภทของการวิ่ง, เวลา, ระยะทาง, แคลอรี, น้ำหนัก, รูปภาพ ก่อนส่งผลทุกครั้ง และขอผู้เข้าร่วมกิจกรรมเก็บหลักฐานต้นทางเอาไว้ เผื่อกรรมการขอตรวจสอบ หากผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่สามารถแสดงหลักฐานเมื่อถูกเรียกขอ อาจส่งผลให้คณะกรรมการฝ่ายเทคนิคพิจารณาไม่นำผลเข้าร่วมประมวลได้ การตัดสินใจของคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคถือเป็นสิ้นสุด
6.2. ในการแข่งขันไอออนฮาร์ท ต้องส่งผลด้วยวิธี submit sync เท่านั้น ต้องตรวจสอบข้อมูล, ประเภทของการวิ่ง, เวลา, ระยะทาง, แคลอรี, น้ำหนัก, รูปภาพ ก่อนส่งผลทุกครั้ง ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบข้อมูลที่ไม่ปกติด้วยอำนาจของกรรมการฝ่ายเทคนิคที่ได้แต่งตั้งเอาไว้ ขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมกิจกรรมเก็บหลักฐานต้นทางเอาไว้ เผื่อกรรมการขอตรวจสอบ หากผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่สามารถแสดงหลักฐานเมื่อถูกเรียกขอ อาจส่งผลให้คณะกรรมการฝ่ายเทคนิคพิจารณาไม่นำผลเข้าร่วมประมวลได้ การตัดสินใจของคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคถือเป็นสิ้นสุด
6.3. วิธีการส่งข้อมูลแบบ Submit Sync คือ การส่งผลด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลจากแอปพลิเคชัน Garmin, Suunto, และ Strava
6.4. วิธีการส่งข้อมูลแบบ Submit Plus คือ การส่งผลด้วยการรูปภาพจากการบันทึกหน้าจอกิจกรรมจากแอปพลิเคชัน Garmin, Strava, และ Zepp โดยระบบจะอ่านข้อมูลจากรูปภาพ เช่น ระยะทาง เวลา จำนวนแคลอรี ของกิจกรรมนั้น ๆ เพื่อส่งผลในระบบ
6.5. วิธีการส่งข้อมูลแบบ Manual คือ การกรอกข้อมูลส่งผลด้วยตัวเองโดยการเลือกประเภทการออกกำลังกาย พร้อมกับแนบภาพหลักฐานการออกกำลังกาย กรอกเวลา ระยะทาง และแคลอรี จากกิจกรรมออกกำลังกายนั้น ๆ เพื่อส่งผลกิจกรรม แต่ขอให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ข้อมูลตามความจริง หากคณะกรรมการเทคนิคพบว่าข้อมูลผิดปกติ หรือไม่สมเหตุผล หรือเป็นไปไม่ได้ ทางกคณะกรรมการจัดการแข่งขันขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกตรวจสอบข้อมูลหรือไม่นำเอาข้อมูลมาประมวลผล
6.6. หากผู้เข้าร่วมแข่งขันพบว่ามีการส่งผลผิดพลาด ซ้ำ หรือใช้ข้อมูลการวิ่งย้อนหลังก่อนวันที่กำหนด ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถกดรายงาน (Report) การส่งผลนั้น ๆ ได้ เจ้าหน้าที่ และระบบจะตรวจสอบข้อมูล ลบข้อมูลให้ และหรือหากคณะกรรมการจัดการแข่งขันพบข้อมูลอื่นที่ผิดกติกา จะขอสงวนสิทธิ์ในการจัดการข้อมูลนั้น ๆ โดยข้อมูลอาจถูกลบทันที โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรณีที่ท่านกรอกข้อมูลด้วยตนเองผิดพลาด สามารถดำเนินการลบผลการแข่งขันนั้นได้ตนเอง และทำการส่งผลใหม่อีกครั้งได้
7. แอปพลิเคชันข้างต้น จะรวมระยะทาง และเวลาที่ใช้ เช่น ผู้เข้าร่วมสมัครระยะ 10.5 กม. แบ่งเป็นวิ่ง 2 ครั้ง ยกตัวอย่างเช่น 5.25 กม. ที่ 30 นาที และรอบที่สอง 5.25 กม. ที่ 32 นาที ระบบจะรวมระยะทาง และเวลาเป็น 10.5 กม. ในเวลา 1 ชั่วโมง 2 นาทีตามลำดับ หากส่งผลไม่ครบระยะทางในครั้งสุดท้าย ระบบจะแจ้งเตือน หากส่งผลไม่ครบจะถือว่าวิ่งไม่ครบระยะทาง ส่งผลให้มิได้รับการจัดอันดับ หากส่งข้อมูลวิ่งเกินระยะทางระบบจะประมวลผลเวลาวิ่ง โดยอาศัยระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ต่อระยะทางหนึ่งกิโลเมตร แล้วคูณด้วยระยะทางของการวิ่ง
8. ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ต้องซื่อสัตย์ต่อการแข่งขัน ผู้จัดงานไม่ปรารถนาตรวจสอบเจตนาหรือความจงใจที่ไม่บริสุทธิ์ใด ๆ การตัดสินของคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคเพื่อจัดอันดับการวิ่ง และผลรางวัลถือเป็นสิ้นสุด
9. หลังส่งผลอย่างถูกต้อง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับ เสื้อวิ่ง, e-Bib, e-Certificate และได้รับเสื้อ Finisher พร้อมเหรียญ และของขวัญตามที่สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งจะถูกจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ต่อไป
10. ไม่อนุญาตในการเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้สมัคร ระยะทาง หรือโอนชื่อให้ผู้อื่น หลังการลงทะเบียนการแข่งขันทุกกรณี